ที่ใด มีรัก....ที่นั่น มีทุกข์
ในเมื่อ ทุกข์ นี้ จะตกต้อง แก่ ประชาชน ตาดำ ๆ ทุกคน
ในมหานคร อันเลื่องชื่อ ที่มีนามว่า สุหวันปุระ
เหตุการณ์ จากตอนที่แล้ว
กล่าวถึง ความอดีตกาล เมื่อครั้ง ก่อร่างสร้าง กรุงไกร แห่งใหม่
ท่ามกลาง สงครามที่ เพิ่งจะ บรรจบ แก่ความล่มสลาย ของฝ่ายพ่ายแพ้
ซึ่งก็คือ นครปัญจวาตีศรีสุเทพอุทัย
สมเด็จเจ้าฟ้ามหาจักรพรรดินี พระนามว่า พระนางเจ้าอยู่หัวมิ่งเมืองแมนแสนเลิศเพริศพิลัย
ต้องตกมาเป็นเมือง ประเทศรายา แห่งนคร สุหวันปุระ
และต้องเสีย พระเจ้าลูกเธอ พระนามงามยิ่งแล้ว ว่า
พระเจ้าลูกเธอ พระนางปัญจวาตีศรีอุทัยสวรรค์ ตกเป็น สิ่งบรรณาการอันหาค่ามิได้
แก่เมืองเจ้าอาณาจักรทั้งปวง คือ สุหวันปุระ
ผู้คนถูกกวาดต้อน ฝ่ายชายถูกเกณฑ์ ไปเป็นทาสา ฝ่ายหญิงถูกเกณฑ์ ไปเป็นทาสี
ฝ่ายหญิง นางใน ที่มี รูปโฉม สคราญ งามหยดย้อย
จักถูกต้อน ไปรวมอยู่ ณ ลาน โลกียรมณียสถาน
หมายถึง ลานพิธีไว้ต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง กลางเมืองใหญ่ ที่ให้ ชายอัครรายาทูต ต่างเมือง
มาเลือกเฟ้น ไปเป็น นางบำเรอ ปรนเปรอความสุข ทั้งยามหลับ และยามตื่น
หากนางผูใด มิ ยินยอม พร้อมใจ แต่โดยศิโรราป
จัก มีโทษตาย อย่างเดียว คือ โดน กระทำชำเลา ย่ำยี ให้ถึงแก่ความตาย
วิญญาณ ยังต้องถูก สะกด ไว้อยู่คู่ กับ รูปสลัก นางอัปสราประภัสสร
ใต้ฐาน รอบปราสาท รายาวัง และ กำแพงเมือง
เพื่อคอยเป็น ปราการด่านสำคัญ ในการ รักษา นครา แห่งนี้ ให้แผ่วพลาญ จากศัตรู
แต่ ตอนหลัง กลับกลาย เป็น สุสาน ของ เจ้าของ นครา ทุกผู้ นั่นเอง
ผู้ใด ยอม แต่โดยศิโรราป จักโดน เปลื้องผ้า ให้ เห็นเนินอก แล ปทุมถัน
โดน ขนานนามว่า นางอัปสรายาณี
นางใดที่เป็น หญิงงาม ลือชื่อ จ้กได้รับการ แกะสลัก รูปลักษณ์ ไว้บน ผนัง
แห่ง โลกียรมณียสถาน แห่งนี้ นี่เอง
พระนางเจ้า รานีเธอ โดนตัดสิน ประหารด้วย ท่อนจันทน์หอม
พระศพ ถูก ทหารเลว กระทำชำเลา กว่า ๑๐๐ นาย
พระศพ ถูก ตัด พระเศียร เสียบประจาร ไว้หน้าประตูชัย แห่ง นครสุหวันปุระ
กาลครั้งนั้น สร้างความแค้น ให้บังเกิด แก่ชาว ปัญจวาตีศรสุเทพอุทัย หาที่สุดมิได้
โดย เฉพาะ พระเจ้าลูกเธอ พระนางปัญจวาตีศรีอุทัยสวรรค์
พระนางเธอ ถุกจับได้ ว่า ลักลอบก่อกบฎ ปลายสมเด็จสมัย แห่ง
สมเด็จพระรายาองค์อาทิตย์สุริยวงศ์ ปฐมบรมกษัตราธิรายา แห่ง รายาวงศ์ องค์อาทิตย์
ในสมัยกาล ก่อนปัจจุบัน ๕๐๐ ปี
พระนางเธอ ถูกจองจำ จนกว่า ชีวิต จะหาไม่
พระนางเธอ สิ้นพระชนม์ ด้วยวัยสาว ๑๕ ชันษา
ภายใต้ คุก อันมืดมิด ดุจ ยามนิทราราตรีคืน
ทุกยาม ค่ำ พระนางเธอ จัก สวดสาปแช่ง ผู้ที่ทำให้ พระนางมี จุดจบ เยี่ยงนี้
ซึ่งก็คือ ผู้ที่กลับชาติมา กำเนิด เป็น
สมเด็จรายา องค์ที่ ๑๓ แห่งสุหวันปุระ ในปัจจุบันกาล นั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น